วิธีการเลือกแผงโซล่าเซลล์
หากเรายังเป็นมือใหม่ ยังไม่ทราบวิธีการเลือกแผงโซล่าเซลล์ ให้เราดูที่ลักษณะการใช้งานก่อนเป็นอันดับแรก ว่าการใช้งานเราเป็นแบบไหน บางคนใช้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่าง รถบ้าน หรือใช้ท่องเที่ยวอย่างแคมป์ปิ้ง การใช้แผงใหญ่ๆคงไม่เหมาะ
ถ้าขี้เกียจอ่านไปดูคลิปและบทความ “การเลือกแผงโซล่าเซลล์ให้เหมาะกับการใช้งานของเรา”
บางคนใช้บนหลังคาบ้านมีพื้นที่เพียงพอ ไม่ต้องย้ายแผงไปๆมาๆ การใช้แผงขนาดใหญ่จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งแผงโซล่าเซลล์ขนาดใหญ่ ก็จะตามมาด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และราคาต่อกำลังติดตั้งที่ถูกลง
แผงจะเล็กจะใหญ่มันขึ้นอยู่กับ ขนาดเซลล์ และจำนวนเซลล์ที่อยู่บนแผงนั่นเอง แผงโซล่าเซลล์ประกอบไปด้วยเซลล์ขนาดประมาณฝ่ามือเรา ประกอบเป็นวงจรเข้าด้วยกันเป็นจำนวนตั้งแต่ 12 เซลล์ จนถึง 72 เซลล์ ยิ่งเซลล์มาก voltage ก็จะสูงตามไป และยิ่งเซลล์ขนาดใหญ่ ก็จะทำให้กระแสสูงขึ้นนั่นเอง
โดยในแต่ละเซลล์ (สำหรับโซล่าร์เซลล์ที่ทำจากซิลิคอน) จะมีค่า voltage ต่อเซลล์อยู่ที่ประมาณ 0.5-0.7V ดังนั้นหากดูแผงโซล่าเซลล์ที่มี 72 เซลล์ เราจะได้ค่า voltage ของแผงอยู่ราวๆ 36 – 50V โดยประมาณ
ดังนั้นยิ่งมีจำนวนเซลล์มากแผงก็ยิ่งมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากขึ้น หากใครคิดว่าแผงโซล่าเซลล์มีน้ำหนักเบาละก็ อาจจะคิดผิด ถ้าแบบ72 เซลล์ บางทียกคนเดียวอาจจะไม่ไหวด้วยซ้ำ (ขนาด 2 x 1 เมตร น้ำหนัก 25 กิโลกรัมโดยประมาน)
หากใครต้องการติดหลังคาบ้านผมแนะนำใช้ 72 เซลล์ หรือ 60 เซลล์ไปเลย เพราะยิ่งเซลล์เยอะ ประสิทธิภาพและราคาต่อวัตต์ก็จะถูกกว่าครับ
ประเภทของแผงโซล่าเซลล์ ที่ได้รับความนิยม
ประเภทของแผงโซล่าเซลล์ก็มีเรื่องที่ต้องคิดเช่นกัน ปกติประเภทของแผงโซล่าเซลล์จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆคือ Mono, Poly และ Thin-film โดยมากจะนิยมใช้อยู่แค่ 2 ประเภท คือ Mono และ Poly ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า และการใช้งานคงทนกว่า
ส่วนใครจะเลือกแผง Mono หรือ Poly ก็สุดแล้วแต่ว่าเพื่อนๆจะหาแบบไหนได้ถูกกว่า เรามักได้ยินว่าแผง Mono ราคาสูงกว่าแผง Poly แต่ประสิทธิภาพแผง Mono ก็สูงกว่าเช่นกัน
หรือบางคนอาจเคยได้ยินว่า ถ้าใช้ในเมืองไทย Poly ดีกว่า หรือ Poly ทำงานได้ดีกว่าในช่วงแดดเปรี้ยงๆ แต่ Mono ทำงานได้ดีกว่าในช่วงเช้าและเย็น หากใครอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ “แผง Mono หรือ Poly เหมาะกับประเทศไทยมากกว่า” ผมอยากจะบอกว่าจริงๆเราไม่ต้องใส่ใจมาก แค่เป็น Mono หรือ Poly ก็พอ อันไหนราคาถูกก็เอาอันนั้น ประสิทธิภาพมันไม่ต่างกันขนาดนั้น ให้เน้นที่การเลือกผู้ขายที่น่าเชื่อถือดีกว่า “ซื้อแผงโซล่าเซลล์ ได้ที่ไหน ที่มีความน่าเชื่อถือ และได้แผงแท้”
ส่วนราคา Mono หรือ Poly อันไหนถูกกว่า ปกติ Poly จะถูกกว่าเล็กน้อย แต่เคสนี้ใช้ไม่ได้กับประเทศไทยเท่าไหร่ เพราะการใช้งานยังไม่แพร่หลายผู้จำหน่ายมีน้อยราย ราคาจากโรงงานต่างกันก็จริง แต่ค่าขนส่งกลายเป็นต้นทุนหลักของแผงโซล่าร์เซลล์ในประเทศเรา
ทำไมจึงควรเลือกแผง Tier 1
อีกคำแนะนำนึงในการเลือกแผงโซล่าเซลล์คือ พยายามเลือกแผงที่อยู่ใน Tier1 ที่ราคาไม่แพงจนเกินไป และผู้จำหน่ายน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะหากติดบนหลังคาบ้านที่สูงและมองเห็นได้ยาก เพราะว่าหากใช้แผงที่ไม่ได้คุณภาพ จะมีความเสี่ยงเรื่องการเกิดเพลิงไหม้ และยิ่งอยู่ในที่ลับตาที่มองเห็นได้ยาก การดับไฟอาจจะไม่ทันการ (สามารถดูยี่ห้อแผงใน Tier1 ได้ที่ Latest Tier-1 Panels List 2020 )
แต่หากยังอยากประหยัดงบลองดูพวกแผงที่มีรีวิวที่ดีดูครับ อย่างแผง Sun Power ผมเห็น SCG เค้าใช้ในการติดตั้งแพคเกจราคาถูกให้กับลูกค้า ก็น่าจะเชื่อถือได้พอประมาณ
แผงอีกยี่ห้อนึงที่ผมค่อนข้างจะเชื่อถือคือ Amily เพราะเป็นแผงที่ทางอาจารย์ของผมที่ผมเคยเรียนติดตั้งโซล่าเซลล์ on-grid เป็นผู้นำเข้า (Nine Solar Power) ไว้ผมจะลองซื้อมาทดลองให้ดูนะ
แผงอีกยี่ห้อที่ผมเห็นขายเยอะ และผมกำลังจะทำการทดลองคือ LVTopsun แต่ยังไงถ้าจะใช้แผงพวกนี้ผมแนะนำใช้กับบ้านที่ไม่ใหญ่มาก และเรามองเห็นแผงได้ตลอด หรือพวกโซล่าร์ที่ติดบนพื้นดินก็ใช้ได้ครับ
สรุป
หลักๆการเลือกแผงก็จะมีประมาณนี้ครับ สรุปคร่าวๆคือ เลือกขนาดก่อนตามการใช้งาน หลังจากนั้นให้เลือกแผงชนิด Mono หรือ Poly ครับ หากใช้ในบ้านที่หลังคาสูง หรือมองเห็นได้ยาก ให้ใช้แผงที่มีคุณภาพอยู่ใรลิส Tier 1 ครับ ง่ายๆเท่านี้ครับ
สำหรับเพจนี้ผมจะเน้นเป็นเรื่องของโซล่าร์เซลล์ off-grid แบบทำเองได้มากกว่า อย่างรถบ้าน บ้านสวน พื้นที่ห่างไกล หรือการใช้ในสวนในไร่เพื่อการเกษตร เพราะพวกนี้ทำเองได้ครับไม่ยากอะไร สามารถเอาแบบวงจร ของผมแล้วไปซื้ออุปกรณ์ ดูวิธีการทำในช่องผม และสามารถลงมือทำเองได้เลยครับ