วิธีการเลือก On grid Inverter
ผมเคยทำคลิปวิธีการเลือก on-grid inverter ไว้ที่คลิป “การอ่านสเปค กริดไท อินเวอร์เตอร์” ซึ่งในนี้ผมจะบอกขั้นตอนการเลือก inverter รวมถึงการอ่านสเปคต่างๆ เผื่อใครที่ขี้เกียจอ่านครับ ส่วนใครชอบอ่านผมจะเขียนวิธีไว้ดังนี้นะ
ก่อนอื่นเราต้องดูก่อนว่าบ้านเราเป็นไฟ 1 เฟส หรือไฟ 3 เฟส โดยการดูจากหน้ามิเตอร์ไฟบ้านของเรา ซึ่งปกติจะมีเขียนบอกบนหน้ามิเตอร์ ลองดูตัวอย่างหน้ามิเตอร์ที่หน้านี้
และสิ่งต่อมาที่ควรดูคือขนาดติดตั้งที่เหมาะสม โดยในการประมาณขนาดให้ดูที่คลิป ” ติดโซล่าเซลล์ อย่างไรให้คุ้มค่า”
หลักจากเรารู้ ขนาดติดตั้ง และ จำนวนเฟสของไฟฟ้าของบ้านเราแล้ว เราก็มาเลือก inverter กัน โดยก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าบ้านเราอยู่ในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ซึ่งส่วนมากใครที่อยู่ กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะอยู่ในสังกัด MEA ส่วนใครอยู่ต่างจังหวัดจะสังกัด PEA แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องลองเช็คหน้าบิลค่าไฟด้วยนะ
พอเรารู้แล้วว่าเราอยู่ในสังกัดใคร เราก็ค่อยไปดูลิสของ Inverter จากหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ของเราโดยดูจาก “MEA Inverter List” หรือ “PEA Inverter List” ในที่นี้เพื่อที่ว่าเราจะสามารถขออนุญาตการไฟฟ้าได้ หากเราเลือก Inverter ที่ไม่ได้อยู่ในลิสนี้ และต้องการขออนุญาต เราจำเป็นต้องส่งให้หน่วยงานที่ได้รับการรองรับ ทำการทดสอบ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาท (ซื้อใหม่ดีกว่า)
แต่หากใครแพลนว่าจะติดแบบไม่ขออนุญาต (ไม่แนะนำ) จริงๆก็ไม่ต้องสนใจลิสนี้ก็ได้
On grid inverter ยี่ห้อไหนดี
พอเราทราบขนาดติดตั้งตั้งเหมาะสมแล้ว เราก็เลือกยี่ห้อตามลิสของการไฟฟ้า โดยหากใครงบเหลือๆ (แต่ละยี่ห้อมันจะต่างกัน 10,000-20,000 บาท) โดยยี่ห้อที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงมากๆและจัดอยู่ในอันดับต้นๆจะมี Huawei SMA ABB
โดย SMA กับ ABB ส่วนมากไม่ค่อยมีขายให้คนทั่วๆไป หากสนใจซื้ออาจจะต้องติดต่อกับตัวแทนโดยตรง ซึ่ง SMA และ ABB เป็น inverter สัญชาติเยอรมัน ราคาแพงกว่า Huawei พอสมควร และเท่าที่ได้ยิน ค่าบริการในการดูแลรักษาค่อนข้างสูง
ส่วนยี่ห้อรองลงมา แต่คุณภาพตามที่ได้ยินก็ไม่ได้เป็นรองไปกว่ากันมากก็คือ GoodWe SOFAR SOLAX SunGrow Growatt ก็ถือว่าเป็นยี่ห้อที่ดีเช่นกัน ส่วน INVT ผมไม่ค่อยเห็นเค้าใช้กันในไซต์ขนาดใหญ่ แต่เป็นยี่ห้อที่มีชนิดของสินค้าหลากหลายมากๆ และเป็นที่นิยมมากๆด้วย
ในการเลือกก็ให้เราเลือกยี่ห้อพวกนี้แหละครับ ไม่ต้องไปเลือกยี่ห้ออะไรแปลกมากมาย ส่วนมากดูแค่นี้ก็เหลือแค่ไม่กี่อันให้เลือกแล้ว
เปรียบเทียบสเปค On grid Inverter
ส่วนมากหลังจากดู ลิส PEA MEA เลือกจากยี่ห้อ เราจะเหลือตัวเลือกไม่ได้เยอะอะไรมาก จริงๆสามารถเลือกยี่ห้อในดวงใจ และราคาดีได้เลย แต่ใครยังอยากดูลึกกว่านั้น ก็ต้องไปดูกันที่สเปค
อย่างแรกที่ผมจะดูคือประกันกี่ปี ผมจะเลือกยี่ห้อ รุ่น ที่ประกันยาวและครอบคลุมมากที่สุด เช็คให้มั่นใจจากผู้จำหน่ายว่าประกันจะเริ่มจากวันที่ติดตั้งเสร็จจริงๆ
หลังจากนั้นผมจะเปรียบเทียบที่ Maximum dc input เพื่อเปรียบเทียบว่ารุ่นไหนใส่แผงได้เยอะกว่า โดยมาก DC to AC ratio จะอยู่ราวๆ 1.1-1.5 มันคืออัตราส่วนกำลังแผง ต่อกำลัง inverter หมายความว่ายิ่งมากเราก็ใส่แผงได้เยอะ
โดยอัตราส่วนที่ผมคิดว่าเหมาะสมกับเมืองไทยจะอยู่ราวๆ 1.2-1.25 ครับ อันนี้แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน และแต่ละพื้นที่ด้วย ไม่ได้เป็นตัวเลขที่ตายตัว
ถัดมาที่ผมจะดูคือ จำนวน MPPT ที่ ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งดีปกติ 5kW จะมี 1-2 MPPT ถ้ามี 2 MPPT เราจะสามารถแยกสตริง และมีโอกาสเกิดพลังงานสูญเสียจากเงาต่างๆได้น้อยกว่าการที่มี 1 MPPT (ใครยังไม่รู้ว่าสตริง อาเลย์ คืออะไรไปดูที่คลิป “PV array คืออะไร ต่างจาก String อย่างไร”)
สิ่งสุดท้ายที่ผมจะดูคือ Efficiency โดยใน datasheet จะมีบอกอยู่ 2 ตัวคือ Efficiency และ Euro efficiency จะดูตัวไหนก็ได้ แต่หากจะเปรียบเทียบต้องใช้ตัวเดียวกันเปรียบเทียบ ซึ่งตรงนี้ส่วนมากจะอยู่ 96-99% ไม่ได้ต่างอะไรกันมาก
สรุป
การเลือก on grid inverter หลักการง่ายๆไม่กี่ขั้นตอนมีตามที่ผมบอกด้านบน ก็คือเลือกประเภท inverter ให้ถูกต้อง ว่าเป็น 1 เฟส หรือ 3 เฟส อยู่ใน MEA PEA inverter list หรือเปล่า ดูขนาด inverter ที่เหมาะกับบ้านเรา
หลังจากนั้นให้ดูยี่ห้อที่มีชื่อเสียง เมื่อเลือกได้แล้วจะเหลือไม่กี่ยี่ห้อ ถ้าอยากเปรียบเทียบให้เปรียบเทียบที่สเปค โดยดูจาก ระยะเวลาการรับประกัน, DC to AC ratio, จำนวน MPPT และ ประสิทธิภาพ เท่านี้ก็จะได้ inverter ที่ดีตัวนึงแล้วครับ