เพื่อนๆที่กำลัตัดสินใจว่าจะซื้อโซล่าชาร์จเจอร์ ยี่ห้อไหนดี เพื่อๆต้องไม่พลาด คลิป หรือบทความนี้นะครับ เพราะจะเป็นบทความที่ผมทำการเปรียบเทียบ โซล่าชาร์จเจอร์ 4 ยี่ห้อดังไม่ว่าจะเป็น EPever PowMr SRNE และ SUOER ซึ่ง SUOER จะเป็นตัวเดียวที่เป็น PWM
ในตอนท้ายผมจะทำการทดลองด้วยการจับคู่ทีละคู่ว่าตัวไหนมีประสิทธิภาพดีกว่ากัน มีข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกันในด้านต่างๆอย่างไรบ้าง
สารบัญ
- ดูคลิป “โซล่าชาร์จเจอร์ ยี่ห้อไหนดี พร้อมรีวิว MPPT PWM”
- ราคาโซล่าชาร์จเจอร์
- วัสดุที่ใช้ทำโซล่าชาร์จเจอร์
- Temperature sensor มีประโยชน์อย่างไร
- ช่องเสียบสายไฟ ของชาร์จเจอร์รุ่นไหนดี
- เซ็ตค่าอะไรได้บ้าง
- ประสิทธิภาพอันไหนดีที่สุด
- สรุป
บทความต่อไปนี้ ผมสรุปมาจากคลิปด้านล่างครับ ใครขี้เกียจอ่านก็ฟังในคลิปเอานะ ใครอยากฟังใน “โซล่าชาร์จเจอร์ ยี่ห้อไหนดี พร้อมรีวิว MPPT PWM 20A 30A 60A”
ถ้าใครคิดว่ามีประโยชน์ อยากสนับสนุน ฟังสาระดีๆ ช่วยกด Like กด Share กด Subscribe
ให้ผมด้วยนะ
ราคาโซล่าชาร์จเจอร์
ก่อนอื่นเรามาดูเรื่องของราคากันก่อนดีกว่า หากเราจะเปรียบเทียบราคาโซล่าชาร์จเจอร์แต่ละยี่ห้อ เราควรดูที่ขนาด A และประเภทของโซล่าชาร์จเจอร์ด้วย โดยแต่ละตัวที่ผมเลือกมาจะมีขนาดอยู่ทีประมาณ 20-30A โดยจะมี SUOER ตัวเดียวที่เป็นชาร์จเจอร์ประเภท PWM
ดังนั้นโซล่าชาร์จเจอร์ที่ราคาถูกที่สุดคงหนีไม่พ้น SUOER ซึ่งราคาจะตกอยู่ที่ประมาณ 250 บาท อันนี้ถือว่าราคาแพงแล้วนะสำหรับ PWM ใครงบน้อยจริงๆมันจะมีตัวสีน้ำเงินราคาแค่ร้อยกว่าบาทเท่านั้นเอง แต่ยังไงผมแนะนำให้ใช้ของมีแบรนด์น่าจะดีกว่าครับ
ส่วนตัวอื่นๆหากเทียบกัน PowMr จะมีเพียงขนาดเดียวคือ 60A ราคาตกประมาณ 2600 บาท ซึ่งเรียกว่า ราคาดีมากๆหากเทียบกับตัวอื่นๆ
แต่หากเราเทียบที่ 30A เท่ากัน (PowMr ใช้ตัว 60A มาเทียบ) SRNE จะถือว่าราคาถูกที่สุดโดยอยู่ที่ประมาณ 2400 บาท ส่วน PowMr อยู่ที่ 2600 บาท และ EPever อยู่ที่ 3000 บาท
แต่ SRNE ตัวที่ผมรีวิวรับกระแสได้ 20A ราคาแค่ 1600 บาทเท่านั้นเอง และมันยังมีอีก 2 รุ่น คือรุ่น ML และ MC โดย ML จะเป็นรุ่นที่มีจอ ส่วน MC จะเป็นรุ่นที่ไม่มีจอ ราคาถูกกว่ากันเล็กน้อย (ถ้าเป็นผมคงเลือกรุ่น ML แบบมีจอไปเลยดีกว่า)
วัสดุที่ใช้ทำ โซล่าชาร์จเจอร์
ส่วนมากโซล่าชาร์จเจอร์จะทำจากพลาสติคแข็ง แต่จะมี PowMr ตัวเดียวที่ทำจากโลหะ ซึ่งมีข้อดีคือการระบายอากาศจะทำได้ดีกว่า รวมถึง PowMr จะมีพัดลมระบายอากาศด้วย แต่มันก็มีข้อเสียคือ สามารถมีสัตว์เลื่อยคลานอย่าง จิ้งจก เข้าไปและอาจทำให้เกิดการช๊อตด้านในด้าน
อีกอย่างคือหากพัดลมเสีย PowMr อาจจะไม่สามารถทำงานต่อได้ หรืออาจจะเสียไปเลย (จากที่เพื่อนๆหลายๆคนบอกผมมานะครับ) อีกข้อนึงของ PowMr ที่ผมไม่มค่อยชอบคือปุ่ม โดยมันจะเป็นลักษณะปุ่มแบบพลาสติกที่น่าจะเสียเร็วหากกดบ่อยๆ (ดูรูปด้านล่าง)
ส่วนยี่ห้ออื่นๆ หากให้เทียบวัสดุกันแล้ว ผมคิดว่า SRNE เป็นยี่ห้อใช้วัสดุดีที่สุด คือเป็นพลาสติคแข็ง รวมถึงหน้าตาการออกแบบดีด้วย (ความชอบส่วนตัว) ส่วนยี่ห้ออื่นๆจะใช้พลาสติคแบบก๊องแก๊งเล็กน้อย แต่ในส่วนนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับการใช้งานจริง
Temperature Sensor
ข้อต่อมาคือ Temperature Sensor หรือเซ็นเซอร์ชดเชย อุณหภูมิ คำถามแรกที่ควรถามคือ ทำไมเราต้องมี Temperature Sensor ซึ่งคำตอบก็คือ เวลาเราใช้แบตไปเรื่อยๆ อุณหภูมิมันจะร้อนขึ้น ซึ่งจะทำให้ความจุ และค่าต่างๆของแบตมันเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
ดังนั้นโซล่าชาร์จเจอร์ที่ดีควรจะ ปรับการชาร์จแบตตามค่าต่างๆของแบตด้วยนั่นเอง รวมถึงความปลอดภัยในการใช้งานต่างๆของแบตเช่น เมื่อแบตร้อนเกินไป หรือเมื่ออุณหภูมิของแบตเตอรี่ ต่ำกว่า 0 องศา แบบโซล่าชาร์จเจอร์ก็ไม่ควรจะชาร์จไฟเข้าแบตเช่นกัน
หากมาดูแต่ละยี่ห้อแล้ว จะมีแค่ 2 ตัวที่มี Temperature Sensor แบบติดกับตัวแบต ซึ่งก็คือ EPever และ SRNE โดย SRNE จะมี Temperature Sensor มาให้อยู่ในกล่อง ส่วน EPever เราต้องทำการซื้อแยกเอง ราคาประมาณ 200 กว่าบาท ซึ่งก็จะทำให้ราคายิ่งแพงขึ้นไปอีก
ช่องเสียบสายไฟ
ช่องเสียบสายไฟเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญค่อนข้างมาก โดยขนาดของรูปกติจะขึ้นอยู่กับขนาดกระแสที่ชาร์จเจอร์รับได้ด้วย โดยตัวที่ผมชอบที่สุดคือ SRNE ที่สามารถใส่สายขนาดใหญ่ได้ ถึงแม้รูข้างนอกจะเล็กกว่า EPever แต่รูที่เชื่อมกับตัวทองแดงของสายไฟ SRNE กลับมีขนาดที่ใหญ่กว่า
SRNE ขนาด 20A รูสามารถใส่สายไฟได้ 16 sq.mm แต่ตัวคอนแทคก็ทองแดงสามารถใส่ได้ถึง 25 sq.mm โดยเราต้องทำการปอกสายให้ลึกหน่อย แต่ EPever รูใส่ได้ถึง 25 sq.mm แต่คอนแทคที่ใส่กับทองแดงใส่ได้แค่ 10 sq.mm เท่านั้นเองนะครับ
ส่วน 2 ตัวที่ผมไม่ชอบเลยคือ PowMr และ SUOER ที่รูการใส่สายไฟเล็กมากๆ ถึงแม้ PowMr จะมี 2 ช่องให้เราขนานสายไฟได้ก็ตาม ผมก็ยังไม่ชอบอยู่ดี รวมถึงมันไม่มีตัวกั้นสายไฟ ทำให้หากเราใช้สายไฟทองแดงเป็นเป็นเส้นเล็กๆ มันมีโอกาสที่ทองแดงบางเส้นจะเหลื่อมเข้าไปช่องอื่น และทำให้ช๊อตได้ ถ้าให้ดีต้องใส่หางหนูด้วย
การเซ็ตค่าต่างๆ
สำหรับโซล่าชาร์จเจอร์ทุกรุ่น สามารถเซ็ตค่าสำหรับแบตประเภทต่างๆได้ แต่จะมีแค่ 2 รุ่นที่เราสามารถเซ็ตค่าต่างๆได้ตามใจชอบ ก็คือ EPever และ SRNE
ในแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นจะมีฟังก์ชั่นที่เซ็ตค่าสำหรับแบตลิเธียม ฟอสเฟต ให้อัตโนมัติ (ซึ่งเป็นแบตประเภทที่ผมชอบใช้มากที่สุด สำหรับงานโซล่าเซลล์) แต่จากคู่มือของ PowMr ผมมีความครางแครงใจนิดหน่อย ตรงที่เค้าไม่ได้บอกมาว่าในการชาร์จแบตลิเธียม มันชาร์จด้วยค่าต่างๆยังไงบ้าง
ทำให้ผมไม่รู้ว่าแบตลิเธียมที่ PowMr เขียนมันหมายถึงแบตประเภท ลิเธียมฟอสเฟต NMC NCA ซึ่งตรงนี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้แบตจะใช้ได้นานขึ้น หรืออายุสั้นลงด้วยนะ
ส่วนตัวอื่นๆอย่าง SRNE ถึงจะบอกว่าเป็นสำหรับแบตลิเธียม แต่จากการดูค่าต่างๆ สามารถสรุปได้ว่ามันทำมาสำหรับชาร์จแบตลิเธียมฟอสเฟตครับ
การทดสอบประสิทธิภาพ
ผมทำการทดลองประสิทธิภาพของแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น โดยใช้แผงโซล่าเซลล์ ชนิดเดียวกัน ความยาวสายเท่ากัน และตำแหน่งการวางที่ไม่โดนเงาเหมือนกัน โดยทำการเทียบทีละคู่ โดยดูที่กระแส และแรงดันที่เข้า และออกทีละตัว ที่เวลาเดียวกัน
ผลการทดลองคือ PWM ตามที่เคยทดลองไว้ในคลิป “Solar Charge Controller MPPT vs PWM” มีประสิทธิภาพการชาร์จต่ำสุด (ตามที่คาดการณ์ไว้ หากใครต้องการใช้ PWM ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นลองดูตามคลิปนะครับ)
ส่วนตัวที่ประสิทธิภาพสูงสุดคือ PowMr อันดับ 2 คือ EPever และ อันดับสุดท้ายคือ SRNE แต่ประสิทธิภาพต่างกันน้อยมากๆนะครับ ผมไม่อยากให้เอาตรงนี้ไปเป็นตัวตัดสินว่าอันไหนดีกว่าอันไหน
สรุป
ผมทำการเปรียบเทียบโซล่าชาร์จเจอร์ 4 ยี่ห้อที่มีคนนิยมใช้กันมากที่สุด คือ PowMr SRNE EPever และ SUOER โดยทำการเปรียบเทียบในแต่ละด้านคือ ราคา วัสดุที่ใช้ Temperature sensor ช่องเสียบสายไฟ การตั้งค่า และประสิทธิภาพ
โดยภาพรวมตัวที่ผมชอบมากที่สุดคือ SRNE ทั้งวัสดุ หน้าตา ราคา อุปกรณ์ที่ติดมา ช่องเสียบสายไฟ และการตั้งค่า ถึงแม้จะมีประสิทธิภาพต่ำสุดในบรรดา MPPT แต่สำหรับผมต่างกันแค่เล็กน้อยมากๆ ซึ่งผมคิดว่าไม่มีความสำคัญอะไรครับ